บริการจัดการซะกาต

ตามมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ.2545 กำหนดให้มีบัญชีซะกาต ซึ่งหมายถึง บัญชีที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นเพื่อบริจาค และรับดำเนินการบริจาคตามหลักการของศาสนาอิสลาม

ธนาคารจัดตั้งบัญชีซะกาตเพื่อรับเงินซะกาต โดยเปิดบัญชีซะกาตเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2548 หลักเกณฑ์ในการพิจารณาจัดสรรเงินซะกาต คณะอนุกรรมการซะกาตจะพิจารณาจัดสรรเงินซะกาตให้แก่ผู้ที่มีสิทธิ์รับเงินซะกาตตามหลักการของศาสนาอิสลาม ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

• ฟากิร หมายถึง คนยากจน
• มิสกีน หมายถึง คนขัดสน
• มุอัลลัฟ หมายถึง คนที่เพิ่งเข้ารับอิสลามใหม่ๆ
• อัลฆอริมีน หมายถึง คนมีหนี้สิน
• อามิล หมายถึง ผู้เก็บซะกาตที่มีสิทธิได้รับซะกาต
• อัรริกอบ หมายถึง บ่าวทาสที่ต้องปลดปล่อยให้เป็นไท
• อิบนุสะบีล หมายถึง ผู้ที่เดินทาง และเป็นการเดินทางที่ไม่ผิดต่อหลักการของศาสนา
• ฟีสะบีลิลลาฮฺ คือ ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในลักษณะของการเผยแพร่ศาสนาอิสลาม

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศได้จัดสรรเงินซะกาตให้กับผู้รับซะกาตโดยตรง ไม่จัดสรรผ่านองค์กร หรือ มูลนิธิ ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการซะกาต ครั้งที่ 1/2550 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อให้การบริการจัดการซะกาตจากบัญชีซะกาตของธนาคารเป็นไปด้วยความโปร่งใสและถูกต้อง

• ข้อมูลของผู้ที่เสนอขอรับเงินซะกาตจะต้องได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากส่วนงานต่างๆที่เกี่ยวข้องผ่านเลขานุการคณะอนุกรรมการซะกาตของธนาคารก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการซะกาตพิจารณา
• เมื่อคณะอนุกรรมการซะกาตมีมติอนุมัติและดำเนินการจ่ายซะกาตตามมติที่ประชุมแล้ว จะแจ้งผลการดำเนินการให้แก่ผู้จ่ายซะกาตที่มอบหมายให้ธนาคารจัดการซะกาตแทน เพื่อทราบผลการดำเนินงาน และเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เกิดการบริจาคอย่างต่อเนื่องจากผู้จ่ายซะกาตรายเดิม หรือผู้บริจาครายใหม่
• ในกรณีผู้ที่มีสิทธิรับเงินซะกาตเป็นผู้ที่สมควรจะให้การช่วยเหลือสงเคราะห์อย่างต่อเนื่อง เช่น เงินช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กกำพร้าที่ยากจน คณะอนุกรรมการซะกาตจะจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้แยกเป็นประเภทไปเพื่อให้การสงเคราะห์เกิดผลประโยชน์สูงสุด